hoparound.co
Central 70th Anniversary Flower Extravaganza

ตอนคุณอายุ 70 ปี คุณเห็นภาพชีวิตตัวเองเป็นยังไงกันบ้าง? สุขหรือทุกข์? โดดเดี่ยวหรืออบอุ่น? แข็งแรงหรือเป็นโรค? ว่ากันว่าทุกๆเหตุการณ์ในชีวิต ล้วนเกิดขึ้นอย่างน้อย 2 ครั้งเสมอ ครั้งแรกในความคิด และครั้งที่สองในความเป็นจริง และถ้าคำกล่าวนี้ใช้ได้ผลจริงๆ เราเดาว่า Central น่าจะวาดภาพตัวเองในวัย 70 เอาไว้นานแล้ว ว่าไม่ใช่แค่ยังแข็งแรงอยู่ได้ แต่จะเติบใหญ่ รุ่งเรืองกว่าที่เคยเป็นมาอีกด้วย
วันนี้เราพามา #hoparound ชมดอกไม้สดตระการตานานาพรรณที่บานสะพรั่งกลางกรุงเทพฯ ณ Central Chidlom และ Central Embassy ดอกไม้นับล้านดอกเหล่านี้คงเป็นสัญลักษณ์แทนการเบ่งบานอย่างยิ่งใหญ่ของกลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่รายนี้ได้เป็นอย่างดี จากร้านค้า 1 คูหา 2 ชั้นในซอยเจริญกรุง 30 เมื่อปี 2490 กลายมาเป็นเซ็นทรัลวังบูรพาในเวลา 3 ปีต่อมา ก่อนจะเติบโตมาเป็นอภิมหาธุรกิจแสนล้านในปัจจุบัน
เฉพาะในช่วงเวลา 5-6 ปีที่ผ่านมา Central ได้สยายปีกเข้าสู่เกมธุรกิจห้างสรรพสินค้าระดับโลกได้อย่างงดงาม ด้วยการเข้าซื้อกิจการครอบครองแบรนด์ห้างหรูระดับตำนานทั่วยุโรป 5 แบรนด์ 15 โลเคชั่น และมีรายได้รวม จัดเป็น 1 ใน 3 ผู้นำธุรกิจห้างระดับพรีเมี่ยมและลักชัวรี่ในยุโรป โดยนำหน้า Harrods ในกรุงลอนดอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนในประเทศไทยเอง Central ก็เติบโตแบบก้าวกระโดด ด้วยการขยายแบรนด์ทั้ง Central และ Robinson ไปยังจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ ภายในสิ้นปีนี้ในประเทศไทย Central จะมีสาขาทั้งสิ้น 33 สาขา และยังมีโปรเจ็คอื่นที่ต่อคิวกันเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้อีกอย่างไม่รู้จบ (นี่ยังไม่นับธุรกิจอื่นๆของ Central อีกนับไม่ถ้วนทั้งโรงแรม ร้านขายวัสดุก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเขียน ร้านอาหาร และธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้านอีก)
กลับมาที่งาน Central Anniversary Flower Extravaganza นี้กันดีกว่า พอเราก้าวเท้าเข้าห้าง Central Chidlom ปุ๊บ กลิ่นหอมอ่อนๆของมวลหมู่ไม้ก็ลอยอ้อยอิ่งมาเตะจมูก บรรยากาศดูคึกคักกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด คุณป้าหลายคนก็ดูตื่นเต้นกับการโพสท่าถ่ายรูปเลียนแบบหุ่นที่ยืนประกอบฉากดอกไม้ ดอกไม้ และดอกไม้ที่พรึ่บพรั่บอยู่ทั่วห้าง จะบอกว่าเหมามาทั้งปากคลองตลาดก็อาจจะยังน้อยเกินไป และไม่ใช่เพียงแค่ผู้หญิงเท่านั้นที่สนุกกับการแชะภาพ ผู้ชายหลายๆคนก็ดูเอ็นจอยกับมุมนั้นมุมนี้ไม่แพ้กัน

มาสเตอร์พีซของฝั่ง Central ชิดลมน่าจะอยู่ที่โถงใหญ่ ใจกลางห้าง ที่นำดอกไม้สีแดงสดมาจัดตัดกับใบไม้สีเขียวสดเป็นพวงระย้า เลื้อยสลับกับแท่งอะคริลิคใสทะยานขึ้นไปจากชั้นล่างไปจนถึงชั้นบนสุด หลังจากสำรวจจนทั่วแล้ว เราก็แอบชอบซุ้มกุหลาบไฮโซนำเข้าที่ออกแบบและจัดโดยคุณสันติพงษ์ คงรักษ์ ตรงหน้าโถงใหญ่ ชั้น 1 มากเป็นพิเศษ
ตรงทางเดินเชื่อมไปฝั่ง Embassy ก็ถูกแปลงสภาพให้เป็นอุโมงค์ดอกไม้เสมือนจริง โดยมีโปรเจ็คเตอร์ฉายรูปดอกไม้ลงมาที่พื้นและมีความ Interactive กับคนที่สัญจรไปมาด้วย ยิ่งกว่านั้นคือมีการพ่นกลิ่นดอกไม้ให้รู้สึกหอมสมจริงยิ่งขึ้นอีกด้วย
เมื่อมาถึงโถงชั้นล่างของฝั่ง Embassy เราก็พบกับเรือนกระจกจำลองขนาดใหญ่ 2 ชั้นมีบันไดอยู่ข้างในเพื่อให้คนเดินขึ้นมาชมวิวมุมสูงของดอกไม้ละลานตาที่ถูกนำมาจัดเรียงให้สีสันตัดกันฉึบฉับอยู่ตรงพื้นชั้นล่างของเรือนกระจก สำหรับเราแล้ว การจัดดอกไม้ตรงนี้เราแอบคาดหวังว่าจะมีฟีลที่โมเดิร์นกว่านี้ คงเพราะความที่เป็น Embassy ด้วยแหละที่ทำให้เราอยากเห็นความเก๋ไก๋ชิคคูลมากกว่าฝั่งชิดลมนิดนึง แต่ไม่ว่ายังไง ดอกไม้ก็คือดอกไม้ และพวกมันยังคงมีพลังดึงดูดผู้คนทุกเพศทุกวัยให้เข้ามาเชยชมด้วยความตื่นเต้นได้เสมอ


เรารู้สึกขอบคุณและชื่นชมการทุ่มทุนเนรมิตงานมหากาพย์ดอกไม้ในครั้งนี้ของกลุ่ม Central จะว่าไปก็เหมือนกับการมอบของขวัญที่ทั้งหอมหวลและสวยสดให้ชาวกรุง หลังจากที่ต้องผ่านช่วงเวลาแห่งความอาลัยมาเป็นแรมปี สุดท้ายนี้เราขอให้ Central ช่วยพาประเทศไทยและคนไทยเจริญรุ่งเรืองไปพร้อมๆกับธุรกิจของเครือตัวเองด้วยเทอญ สาาาาาาาาธุ

