“HAOMA ไม่ใช่ร้านอาหารธรรมดา” นั่นคือสิ่งที่เราแน่ใจ
แม้เราจะยังไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับร้านอาหารอินเดียนสุดล้ำแห่งนี้ นอกจากอาหาร Neo-Indian ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาอย่างประณีตจากเรื่องราวในความทรงจำส่วนตัว และฝีมือการปรุงอันเฉียบขาดของเชฟ DK (Deepankar “DK” Khosla) แล้ว แนวคิดเบื้องหลังที่เป็นกลไกขับเคลื่อนให้ร้านอาหาร High-End แห่งนี้ก้าวไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนนั้นก็น่าทึ่งไม่แพ้กัน วันนี้เราจะพาเพื่อนๆไป #hop ชม+ชิมรสชาติที่ซับซ้อนและงดงามของ HAOMA ณ โอเอซิสแห่งความเลิศรสใจกลางอโศกกัน
ขอเล่าความเป็นมาของชื่อก่อนเลยว่า HAOMA นั้นอ่านว่า ฮาโอม่า เป็นชื่อของพืชศักดิ์สิทธิ์ในตำนานที่ปรากฏในอารยธรรมชาว Zoroastrian และ Hindu ว่ากันว่าสามารถนำมาปรุงเป็นน้ำอายุวัฒนะที่ใช้ปลุกพลังความเป็นอมตะให้กับผู้ที่ได้ดื่มกินเข้าไป (ขอสารภาพว่าตอนแรกเราก็เกือบปล่อยไก่ตัวโต เพราะเราเองก็ไม่เคยได้ยินเรื่องราวนี้มาก่อน พาให้แอบคิดว่าเป็นภาษาจีนไปเสียได้)
สวนหลังร้านพร้อมบ่อเลี้ยงปลา
จากชื่อแล้ว แน่นอนว่าร้านอาหารอินเดียแห่งนี้ให้ความสำคัญอย่างมากกับพืชพรรณที่นำมาปรุงเป็นอาหารแต่ละจาน โดยทางร้านนั้นมีสวนอยู่ด้านหลังและปลูกพืชมากกว่า 5,000 ชนิด พร้อมบ่อเลี้ยงปลา (ใช่แล้ว เขาเลี้ยงปลาเอง!) เพื่อเป็นแหล่งวัตถุดิบที่สด สะอาด และปลอดภัยตั้งแต่ต้นทางจนออกมาเป็นเมนูเลิศรสแต่ละจานโดยสมบูรณ์ และอย่าลืมว่าทั้งหมดนี้เกิดขึ้นบนที่ดินใจกลางกรุงย่านอโศกที่มูลค่าสูงระยับ เรียกได้ว่าเป็น Urban Farm-To-Table Concept อย่างแท้จริง แถม HAOMA ยังมุ่งมั่นที่จะเป็นร้านอาหารปลอดคาร์บอนแห่งแรกของโลกอีกด้วย
ท่ามกลางรางวัลมากมายที่ HAOMA ได้รับมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น “ร้านอาหารอินเดียยอดเยี่ยมแห่งปี 2019” จาก Elite Magazine หรือการได้รับการจัดลำดับที่ 6 ใน Top Tables Bangkok 2020 แซงหน้าร้านอาหาร Michelin Star ไปหลายร้าน สิ่งที่ทำให้ HAOMA เป็นที่สนใจในเวทีโลกจริงๆไม่ว่าจะเป็น New York Times หรือการได้เข้าพูดร่วมกับเชฟระดับท็อปของโลกหลายคน กลับมาจากจิตใจที่งดงามของเชฟ DK ที่ทำอาหารรสเลิศห่อด้วยใบตองแจกแรงงานต่างด้าวและผู้คนยากไร้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิดไปกว่า 75,000 ห่อตลอดช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา
ในวันนี้ร้าน HAOMA กลับมาเปิดประตูต้อนรับลูกค้าอีกครั้ง ด้วยเมนูซิกเนเจอร์ดั้งเดิมของทางร้าน พร้อมกับอีก 3 เมนูใหม่ที่ถูกเนรมิตขึ้นจากรากเหง้า และมรดกทางวัฒนธรรมที่สั่งสมมาตลอดเส้นทางชีวิตของเชฟ DK โดยให้บริการทั้งแบบ A La Carte (เริ่มต้น 390 บาท) และแบบ Course มีให้เลือกทั้งเมนู Plant-Based และเมนูที่มีเนื้อสัตว์
นอกจากนี้ยังมี Option ในการ Pairing อาหารกับเครื่องดื่มที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด มีทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล และปราศจากแอลกอฮอล เราประทับใจใน Wine List ของที่นี่เพราะมีตั้งแต่ไวน์ชั้นเยี่ยมแบบคลาสสิค ไปจนถึงไวน์จากผู้ผลิตรุ่นใหม่ที่นำเอานวัตกรรมและเทคนิคใหม่ๆเข้ามาพัฒนาแวดวงการทำไวน์ โดยเฉพาะไวน์ที่ผลิตด้วยกระบวนการ Biodynamic และ Organic ซึ่งคัดสรรมาจาก Terroir (พื้นที่ที่มีสภาพดินและอากาศที่เหมาะแก่การปลูกไวน์) ชั้นยอดทั่วโลก
สารภาพตามตรงว่าปกติเราไม่ได้ชำนาญอาหารอินเดียเท่าไรนัก ตอนที่อาหารมาเสิร์ฟเราก็แอบอึ้งกับความงามของการจัดจานที่ดูยุโร้ป...ยุโรป แถมดูเกลี้ยงเกลาราวกับงานอาร์ทสไตล์มินิมอล ผิดกับที่คิดไว้ตอนแรกเลย
สิ่งที่ดีงามกว่าหน้าตาไปอีกก็คือรสชาติ แต่ละจานนั้นช่างอร่อยลิ้นกินเพลินเกินเรื่องไปมาก ประทับใจจนเราต้องเก็บไปบอกต่อคนที่บ้านและเพื่อนๆอีกหลายคน แถมยิ่งได้รู้เรื่องราวที่มาของแต่ละเมนู ก็ยิ่งทำให้เราเคลิบเคลิ้มไปกับรสมือเชฟมากยิ่งขึ้นไปอีก อย่าช้าไปกว่านี้เลย เราไปเช็คเอ้าท์หน้าตาอาหารแต่ละจานของ HAOMA กันเลยดีกว่า
Dishaa
Matar & Daal Kachori
Double Roti
The Reappearing Duck
Marnasann Sagar
Khandi
Dosa
NOONEHUNGRY
Double Ka Meetha
Melody
ประสบการณ์ Gastronomic ที่ HAOMA ในครั้งนี้ได้เปิดโลกให้กับเราในหลายๆแง่มุม ทั้งในเรื่องศิลปะแห่งอาหาร ความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม และเรื่องราวที่เชฟตั้งใจถ่ายทอดออกมาเป็นฉากๆ ผ่านการเลือกใช้วัตุดิบและวิธีการปรุงในแต่ละจาน ราวกับเราได้เดินทางท่องไปในดินแดน Exotic แบบ Luxury ผ่านรสชาติ/รสสัมผัสที่ลิงโลดอยู่บนลิ้นและกลิ่นหอมที่ฟุ้งอยู่ในโพรงจมูก สำหรับเพื่อนๆที่ต้องการจะออกเดินทางสู่ความฟินผ่านรสชาติที่ไม่เหมือนใคร ก็เชิญได้เลยที่ HAOMA รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
เมนูแพลนต์เบส 10 คอร์ส, เมนูที่ไม่ใช่มังสวิรัติ 10 คอร์ส ราคา 2,990 บาท++
และเมนูที่ไม่ใช่มังสวิรัติ 7 คอร์ส ราคา 2,390 บาท++ (เพิ่ม 2,990 บาท สำหรับแอลกอฮอล์แพริ่ง)
เมนูตามฤดูกาลเหล่านี้รวมอยู่ในเมนูอาลาคาร์ทใหม่ทั้งหมด ซึ่งราคาเริ่มต้นที่ 390 บาท
.
สำรองที่นั่งได้ที่
E-mail: Reservations@haoma.dk
Tel : 022584744
.
FB/IG: @hoparound.co
Youtube: hoparound.co
Website: www.hoparound.co
.
#Bangkok
#LetsHoparoundBangkok
Comments