Millennium Hilton Bangkok ยลเมืองกรุงบนคุ้งน้ำกับประสบการณ์ฉบับฮิลตัน
Millennium Hilton Bangkok เป็นโรงแรม Full-Service แบรนด์อเมริกันที่มีทำเลยอดเยี่ยมที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เพราะอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้วิวคุ้งน้ำและตึกระฟ้าของเมืองกรุงแบบกวาดตาไปได้ยาวๆไม่รู้จบ อยากช้อปปิ้งก็เดินไปห้าง ICONSIAM ที่แทบจะอยู่ติดกันได้ทันที พร้อมเดินทางสะดวกทั้งทางรถยนต์ เรือ หรือ BTS สายสีทองที่มีสถานีอยู่หน้าโรงแรมเลย ที่นี่ออกแบบสถานที่และบริการมาเพื่อตอบโจทย์แขกทุกกลุ่มทุกช่วงวัย ทั้งนักเที่ยว นักช้อป หรือจะแค่มา Staycation เปลี่ยนบรรยากาศแบบในเคสของเราก็เหมาะเจาะเช่นกัน
ในวันนี้ Millenium Hilton Bangkok เพิ่งจะทำการ Renovate ใหญ่เสร็จเรียบร้อยไป ตั้งแต่ Lobby ห้องอาหาร (5 ห้อง) ห้องประชุม สระว่ายน้ำ และห้องพักทั้ง 533 ห้องที่หันเทควิวแม่น้ำทั้งหมด ทำให้อาคารสูง 32 ชั้นริมน้ำแห่งนี้ดูสวยงามทันสมัยพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ที่ดีงามที่สุดก็คือ ตอนนี้ทางโรงแรมมีข้อเสนอสุดคุ้ม ห้องพักราคาพิเศษเริ่มต้นเพียง 2,150 บาท พร้อมส่วนลดและสิทธิประโยชน์อื่นๆอีกมากมาย (ดูรายละเอียดโปรโมชั่นได้ที่นี่)
The Arrival
โคมลอยหลายชิ้นถูกแขวนให้ลดหลั่นกันลงมาจากเพดานสูงของโถงทางเข้า Lobby เป็นสัญลักษณ์แทนศิริมงคลเพื่อต้อนรับผู้เข้าพักสู่โรงแรม แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดก็คือ Chandelier ที่เป็น Center Piece ห้อยยาวลงมาพร้อมกับการร้อยเรียงลูกปัดหลากสี (ไม่แน่ใจว่าเป็นคริสตัลหรือเปล่า) ให้เป็นรูปร่างปลากัดแบบกึ่ง Abstract ทางโรงแรมแจ้งว่าแนวคิดหลักของงานดีไซน์ในการ Renovate ครั้งนี้ก็คือวัฒนธรรมของชุมชนริมน้ำเจ้าพระยา และปลากัดก็แสดงออกถึงวิถีชีวิตของผู้คนริมชายฝั่งแม่น้ำสายหลักแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี
Our Room: Panoramic Executive Suite
หลังจากทำเรื่องเช็คอินที่ล็อบบี้เสร็จแล้ว เราก็ขึ้นลิฟท์มาที่ห้องพักของเราและพบกับเซอร์ไพร้ส์เล็กๆเป็นสติ๊กเกอร์ Hilton Clean Stay ปิดผนึกอยู่ที่มุมประตูกับผนังที่ตั้งฉากกันอยู่เพื่อบ่งบอกว่าห้องของเราได้ผ่านการทำความสะอาดตามมาตรฐาน SHA และเราจะเป็นคนแรกจริงๆที่ได้เข้าไปใช้ห้องหลังจากที่ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว
เมื่อเปิดเข้ามาในห้องแล้วก็ไม่มีอะไรเลยที่จะสามารถแย่งความสนใจของเราได้มากไปกว่าวิวพาโนราม่าของคุ้งน้ำเจ้าพระยาและบรรดาตึกสูงที่สลับกันเสียดฟ้าเรียงรายไปจนสุดลูกหูลูกตา เป็นวิวที่ปังซะจนเราลืมสำรวจความดีงามของการตกแต่งห้องพักไปชั่วขณะ
พอตั้งสติได้จึงเริ่มเห็นว่าภายในห้อง Panoramic Executive Suite ของเรานั้นก็ตกแต่งได้สวยเรียบ ครบครันและทันสมัยดูดีไม่แพ้วิวที่นอกหน้าต่างทีเดียว ขนาดเกือบ 70 ตร.ม.นั้นใหญ่เหลือเฟือ แบ่งเป็นโซนรับแขก (ห้องนั่งเล่น/ทำงาน) และโซนส่วนตัว (ห้องนอน/ห้องอาบน้ำแต่งตัว)
ในโซนรับแขกนั้นมีทั้งโซฟาชุดใหญ่พร้อมทีวีจอเบ้อเร่อ โต๊ะทำงานแบบสมฐานะผู้บริหาร (ก็ห้อง Executive นี่เนอะ) พร้อมมุมมินิบาร์ที่มีของเตรียมให้ครบเลย และห้องน้ำที่แยกออกมาเป็นพิเศษสำหรับโซนนี้โดยเฉพาะ เราสะดุดตากับสีของพรมทรงกลมที่ปูรองชุดรับแขกซึ่งช่วยเพิ่ม Accent ให้ Space ดูน่าสนใจขึ้นได้อย่างกลมกลืน
ถัดเข้าไปเป็นโซนห้องนอนที่ดูอบอุ่นน่านอน เทควิวต่อเนื่องเข้ามาจากโซนรับแขกผ่านหน้าต่างกระจกบานใหญ่ เรียกได้ว่าตื่นนอนปุ๊บก็ตื่นตาตื่นใจกับวิวได้ทันทีเลย เดินลึกเข้าไปอีกหน่อยเป็น Dressing Area ที่ให้พื้นที่เยอะพอสมควร อารมณ์ Walk-in Closet ที่เดินทะลุเข้าห้องน้ำได้สะดวกพอดี ภายในห้องน้ำก็สวยงามทันสมัย โซนอาบน้ำมีทั้งแบบแช่อ่างและฝักบัว ส่วน Amenities เป็นแบรนด์ Crabtree & Evelyn กลิ่น Verbena & Lavender ที่หอมสดชื่น
Afternoon Tea at The Lantern
พักผ่อนในห้องพักพอหายเหนื่อยกันแล้ว ก็ได้เวลา Afternoon Tea ที่ The Lantern ซึ่งเป็น Lobby Lounge ที่ได้ชื่อมาจากโคมลอยที่แขวนต่างระดับกันอยู่ใน Lobby เมื่อมองผ่านหน้าต่างกระจกแบบ Floor-To-Ceiling ออกไปก็จะเจอกับแผงต้นไม้ที่เขียวขจี ก็ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้ดีเลยครับ
ทาง Millenium Hilton Bangkok นั้นได้ Pastry Chef ชาวสวิสมาช่วยดูแลเรื่องขนมทั้งคาวหวาน จึงวางใจได้ในเรื่องฝีมือและสดใหม่ ส่วนชานั้นเสิร์ฟแบรนด์ Or Tea? ซึ่งเป็นแบรนด์ใบชาคุณภาพและโมเดิร์นจากฮ่องกง สำหรับชุด Signature Afternoon Tea ที่ยกขนมมาให้ทั้ง Shelf พร้อมเครื่องดื่มชา กาแฟ น้ำผลไม้หลากหลายจนเลือกไม่ถูกนี้มาในราคา 1,200 บาทสุทธิไม่บวกเพิ่ม / 2 ท่าน สามารถซื้อได้ผ่าน LINE SHOPPING ได้เลย
eforea spa
บ่ายนี้เรามีนัดนวด Aroma Therapy กันที่ eforea spa ของทางโรงแรม พนักงานนำน้ำมันมาให้เราเลือก 3 กลิ่นซึ่งทรีตเม้นต์ทั้งหมดของสปาแห่งนี้นั้นจะใช้ผลิตภัณฑ์เฉพาะของ Hilton เท่านั้นเพื่อป้องกันการระคายเคืองและช่วยบำรุงผิวด้วย
พี่ๆ Therapist น้ำหนักมือดีมากครับ เพราะขึ้นเตียงไม่ทันไรเราก็รู้สึกผ่อนคลายจนหลับไปแบบไม่รู้ตัว ตื่นขึ้นมาอีกทีก็ตอนที่พี่เขาบอกให้พลิกตัวใกล้จบซะแล้ว เฮ้อออ...อยากนวดต่อยาวๆอีกซัก 3 ชั่วโมง 555 แต่เราก็มีโปรแกรมพาเพื่อนๆไปชมวิวบนดาดฟ้าของโรงแรมกันต่อ
ThreeSixty Rooftop Bar
ณ ชั้นบนสุดของโรงแรมริมแม่น้ำแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ ห้องอาหารถึง 3 เอ้าท์เล็ตส์ด้วยกัน อันแรกเป็น Executive Lounge ที่เปิดให้บริการแบบ Exclusive เฉพาะแขกที่พักห้อง Executive River View Room และ Panoramic Executive Suite เท่านั้น เอ้าท์เล็ตที่ 2 คือ ThreeSixty Jazz Lounge ซึ่งยังไม่เปิดให้บริการ ส่วนร้านที่ 3 คือร้านที่เราจะพาเพื่อนๆไปชมกันครับ
ร้าน ThreeSixty Rooftop Bar นั้นตั้งอยู่บนดาดฟ้ากลางแจ้งบนชั้น 31 เสิร์ฟเครื่องดื่มทั้งแบบมีแอลกอฮอลและไม่มีแอลกอฮอล รวมถึงอาหารสไตล์ทาปาสที่อร่อยกันได้ง่ายๆเพลินๆด้วย ชื่อ ThreeSixty ก็น่าจะบอกใบ้อยู่ในตัวแล้วว่าสามารถเห็นวิวริมแม่น้ำของกรุงเทพฯได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว โดยเฉพาะถ้าเพื่อนๆได้ขึ้นไปบนลานจอด Helicopter เหมือนกับเรา (ลองสอบถามพนักงานดูก่อนนะครับ เพราะเป็นพื้นที่ที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ) ก็จะได้เห็นวิวสุดหวิวแบบไม่มีอะไรกั้นจนเราแอบเสียวแว๊บเป็นระยะๆ ตรงนี้จะยิ่งงดงามเป็นพิเศษตอนพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน สวยแค่ไหนขอให้ภาพอธิบายก็แล้วกันนะครับ
Buffet Dinner at Flow
อีกสิ่งหนึ่งที่โรงแรม Millenium Hilton Bangkok มีชื่อเสียงก็คือ Buffet Dinner ที่ห้องอาหาร Flow ซึ่งอยู่ชั้นล่างติดแม่น้ำเลยครับ อย่างแรกที่สังเกตเห็นก็คือความใหญ่โตโอ่อ่าของห้องอาหารที่น่าจะจุคนได้หลายร้อยคนรวมกันทั้งโซนภายในและภายนอก เพราะที่นี่นั้นใช้เสิร์ฟอาหารเช้าบุฟเฟ่ต์ด้วย (พรุ่งนี้เช้าเราจะพามาดูอีกครั้งนะครับ) ซึ่งหากวันไหนแขกเต็มก็อาจต้องรองรับมากกว่า 1,000 คน เนื่องจากโรงแรมมีห้องพักทั้งหมดถึง 533 ห้อง
ครัวของ Flow เป็นครัวเปิดซึ่งมีหลายสเตชั่นทำให้เราสามารถดูการทำงานของเชฟไปด้วยได้แบบเพลินๆ กระเบื้องหลากสีที่ถูกนำมาใช้ตกแต่งห้องอาหารนั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากงานกระเบื้องของวัดโพธิ์ แต่นำมาจัดเรียงเล่าเรื่องใหม่ให้ทันยุคสมัยมากยิ่งขึ้น
ครัวใหญ่หลายสเตชั่นขนาดนี้แน่นอนว่าต้องมีอาหารหลากหลายมากๆ ตั้งแต่อาหารทะเล ซาชิมิ ซูชิ อาหารฝรั่ง เช่นเนื้ออบ มันอบ พาสต้า ไปจนถึงอาหารไทยอีกหลายอย่าง และติ่มซำเข่งเบ้อเริ่มเทิ่ม นี่ยังไม่รวมอีกฝั่งของห้องอาหารที่เสิร์ฟสลัด โคลด์คัท ชีสนานาชนิด ตลอดจนเบเกอรี่และขนมหวานทั้งไทยและเทศ น่าจะมีรางวัลให้สำหรับคนที่ทานครบหมดทุกอย่างนะครับ 5555
Turn Down
เมื่อกี๊เราแวะไปเดิน ICONSIAM กันมาครับ โซน Luxury มีคิวต่อกันยาวหลายร้านเลย กลับมาถึงห้องพักก็พบกับน้องช้างวางอยู่บนเตียงเป็น Turn-down Gift ไว้ให้ด้วย กว่าเราจะอาบน้ำอาบท่าและนั่งเคลียร์งานจนเสร็จก็เริ่มดึกมากแล้ว และทุกครั้งที่ได้มองออกนอกหน้าต่าง เราก็ยังคงตกหลุมรักวิวจากห้องของเรา ยิ่งตอนกลางคืนแบบนี้ แสงไฟของเมืองก็มีมนต์สเน่ห์ไปอีกแบบ พรุ่งนี้เรากะจะตื่นเช้าให้ทันดูพระอาทิตย์ขึ้นซะหน่อย ห้องเราอยู่มุมที่เห็นพอดีซะด้วยสิ เดี๋ยวเก็บภาพมาฝากกันนะคับ
Sunrise
อรุณสวัสดิ์คร้าบบบบบบ ไม่ผิดหวังเลยจริงๆที่ตื่นมาชมตะวันแรกขึ้น จากห้องของเราดวงอาทิตย์ขึ้นตรงมุมตึกมหานครพอดิบพอดีราวกับรู้คิว ถ่ายรูปกันรัวๆจนเกือบลืมอาบน้ำแปรงฟันไปกินมื้อเช้าเลยครับ นอกจากพระอาทิตย์จะสวยแล้ว แสงที่ทอดเข้ามาในห้องก็ชวนฝันมากครับ