Centara Reserve Samui ปฐมบทแบรนด์ใหม่สู่ความใส่ใจสูงสุดจากเซ็นทารา
น่าตื่นเต้นมากๆครับที่เราอยู่ในยุคที่ได้เห็นแบรนด์โรงแรมไทยก้าวกระโดดไปสู่แถวหน้าของมาตรฐานระดับโลก นี่คือประสบการณ์ใหม่ที่เพื่อนๆสามารถเข้าไปสัมผัสได้ก่อนใคร นี่คืออีกขั้นของการพักผ่อนที่ลักชัวรี่และเป็นส่วนตัว และนี่คือ Centara Reserve แห่งแรกของโลก ณ หาดเฉวงอันเงียบสงบ เกาะสมุย ประเทศไทย
จากสุดยอดทำเลของ Centara Grand Beach Resort Samui ที่ให้บริการมาถึง 23 ปีบนพื้นที่กว่า 20 ไร่บนหาดเฉวงที่สวยที่สุดของเกาะสมุย AvroKo ทีมดีไซน์ระดับโลกผู้เชี่ยวชาญการออกแบบ Luxury Hospitality Properties โดยเฉพาะได้รับมอบหมายให้เนรมิตงานสถาปัตยกรรมขึ้นใหม่ทั้งหมด (จะยกเว้นก็เพียงเสาเท่านั้น) เพื่อพลิกโฉมสถานที่แห่งนี้ให้รองรับแบรนด์โรงแรมใหม่ที่ทั้งทันสมัยและละเมียดละไมกว่าเดิม ด้วยเงินทุนหนาตึ้บกว่า 1,200 ล้านบาท
หลังจากปิดปรับปรุงไปเกือบ 2 ปีครึ่ง (ตั้งแต่ก่อนโควิดระลอกแรกซะอีก) Centara Reserve แห่งแรกของโลกก็ถือกำเนิดขึ้นอย่างสมเกียรติ พร้อมปักธงเป็นแบรนด์ Lifestyle Luxury Resort ระดับสูงสุดของเครือ Centara นับเป็นอีกก้าวที่น่าจับตามองอย่างมากสำหรับวงการโรงแรมแบรนด์ไทย วันนี้เราจะพาเพื่อนๆไปชมความหรูหราแบบ Next Level ไปพร้อมๆกันครับ
คลิ๊กชมวิดิโอได้ที่นี่เลย
A Ride To Centara Reserve Samui
เมื่อเรามาถึงสนามบินก็มีรถหรูจากโรงแรมมารอรับ ภายในรถก็มีขนมและน้ำดื่มติดแบรนด์ Centara Reserve เตรียมไว้ให้บริการพร้อมสรรพ การเริ่มต้นที่ดีนั้นมีชัยไปกว่าครึ่ง ตื่นเต้นจัง อยากรู้ว่าตัวโรงแรมจะดีเลิศขนาดไหน
The Arrival: A Warm Welcome With Reserve Touch
จากสนามบินเกาะสมุย ใช้เวลาเพียง 15 นาที รถของโรงแรม (ใครโชคดีอาจได้รถ Mercedez Benz ไปรับด้วยนะครับ) ก็พาเรามาพบกับพนักงานต้อนรับที่จุด Drop-off ก่อนเข้าไปยัง Lobby เราได้รับดอกดาวเรืองมาคนละดอก พนักงานแนะนำให้เราอธิฐานถึงสิ่งที่เราอยากได้แล้วลอยดอกดาวเรืองลงไปยังสระน้ำหน้าล็อบบี้ ถือเป็น Welcome Ritual ที่พิเศษและช่างคิดช่างทำมากๆ ที่สำคัญคือสอดคล้องกับแนวคิดของแบรนด์ Reserve ที่ต้องการให้แขกแต่ละคนได้รับประสบการณ์เฉพาะบุคคล ไม่ซ้ำใคร และการอธิฐานก่อนเข้าพักก็เป็นการสร้างความประทับใจแรกแบบส่วนตัวอย่างแท้จริง
ความประทับใจต่อมานั้นหนีไม่พ้นความสวยแกรนด์แสนเกรียงไกรของ Lobby ที่ออกแบบมาเพื่อ ”ว้าว” แขกได้อยู่หมัด พูดแบบไม่อวยก็คือที่นี่น่าจะเป็นหนึ่งใน Lobby โรงแรมที่เราประทับใจที่สุดในรอบหลายๆปีที่เราเดินทางมาเลยครับ เพดานที่สูงพิเศษ พื้นที่ที่เปิดโล่งกว้าง มิกซ์ของวัสดุที่เลือกใช้ รูปทรงเฟอร์นิเจอร์ โคมไฟ และเครื่องตกแต่งทุกชิ้น พาเล็ทท์สีขาว-น้ำตาล-เขียวที่สะอาดตา แสงธรรมชาติที่ทอดเข้ามา รวมไปถึงวิวศาลาริมทะเลที่เป็น ICON ของโรงงแรมมาแต่เดิม (แต่คราวนี้ได้รับการอัพเกรดใหม่) องค์ประกอบทั้งหมดเมื่อมารวมกันแล้วต้องบอกว่า “จึ้ง” ที่สุด ขออนุญาตให้ภาพทำหน้าที่บรรยาย “ความจึ้ง” นะครับ แต่ยังไงภาพถ่ายก็ยังไม่เหมือนกับการได้ยืนอยู่ตรงนั้นจริงๆอยู่ดี นี่คงเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของ "Reserve Space” หนึ่งใน 4 องค์ประกอบหลักของประสบการณ์แบบ Reserve ที่ทางแบรนด์วางเอาไว้
ระหว่างรอเช็คอิน เราก็ได้รับผ้าเย็นที่มีกลิ่นหอมสดชื่นของส้มออร์แกนิคมาช่วยขจัดความเหนื่อยล้าให้มลายหายไป พร้อมกับ Welcome Drink ที่มีชื่อน่าค้นหาว่า Silver Velvet Purple ความพิเศษอยู่ที่ประกายสีเงินเรืองรองในแก้วเพราะมีส่วนผสมของผง Silver 24K ที่กินได้อยู่ด้วย ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ พนักงานยังนำ “Magic Box” มาเสิร์ฟให้ เป็น Belgian Chocolate ที่ซ่อนของเซอร์ไพร้ซ์ไว้ด้านใน
แค่เพียงการต้อนรับเราก็สัมผัสได้ถึงความใส่ใจ และความแตกต่างของการบริการแบบเหนือความคาดหมายตามคอนเส็ปต์ “Reserve Touch” ได้แล้วล่ะครับ
While Waiting for Our Room at Pool Bar
เนื่องจากเราเดินทางมาถึงค่อนข้างเช้า ห้องของเราจึงยังไม่พร้อมให้เราเช็คอินทันที ระหว่างนี้ทางโรงแรมจึงเสนอห้องสำรองให้เราพักผ่อนก่อน ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด “Reserve Time” ที่ให้อิสระกับแขกที่อยากจะเข้าพัก หรืออยากจะรับประทานอาหารเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เรารู้สึกอยากสำรวจบรรยากาศรอบๆก่อนสักนิด ก็เลยตัดสินใจไปนั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆที่ Pool Bar และเสพพลังทะเลยามเช้าของสมุยในวันอากาศดีเช่นวันนี้
ระหว่างที่เรานั่งปล่อยอารมณ์จิบเครื่องดื่มอยู่ริมทะเล ทีมมาร์เก็ตติ้งของโรงแรมที่นำโดยคุณการ์ตูน คุณเคเค และคุณแน็ตตี้ก็ได้เข้ามาดูแล และเล่าให้ฟังถึงความตั้งใจปั้นแบรนด์ Centara Reserve ที่นอกจากจะทุ่มทุนถึง 1,200 ล้านบาทในการ Revamp อาคารสถานที่ใหม่ทั้งหมดแล้ว ทีมบริหารในทุกแผนกก็ฟอร์มขึ้นมาใหม่ทั้งทีมด้วยเช่นกัน โดยเป็นการรวมตัวของบุคลากรที่มีประสบการณ์ระดับ Top-Tier ทั้งจากในและต่างประเทศ เพื่อฉีกขนบ Centara เดิมและส่งมอบประสบการณ์แบบ Reserve ที่แตกต่างให้กับแขกที่เข้าพักอย่างแท้จริง
Reserve Pool Suite
นี่คือห้องพักที่ทางโรงแรมจัดมาเพื่อรับรองระหว่างรอเข้าห้องพักจริงๆของเรา เราจึงถือโอกาสถ่ายรูปมาฝากเพื่อนๆด้วยเลย นี่ไม่ใช่ห้องพักธรรมดานะครับ แต่เป็นห้องที่ตกแต่งสวยงาม เครื่องใช้ครบ มีพื้นที่ถึง 67 ตร.ม.เชียว และที่สำคัญคือมีสระส่วนตัวด้วย Centara Reserve สร้างความประทับใจให้เราไม่หยุดเลยนะครับ
ไหนๆก็มาแวะชมห้องอื่นแล้ว เราก็ขอเล่ารายละเอียดห้องพักโดยรวมของที่นี่ไปเลยก็แล้วกันครับ Centara Reserve Samui มีห้องพักทั้งหมด 184 ห้อง แบ่งเป็น 13 Room Types มีพื้นที่ตั้งแต่ 40 - 501 ตร.ม. โดยมี Rare Item เป็นวิลล่าซึ่งมีเพียง 3 หลังเท่านั้นจึงต้องจองล่วงหน้ากันเป็นพิเศษ และแน่นอนครับห้องพักจริงๆของเราในวันนี้ก็คือวิลล่า 1 ใน 3 หลังนั้น ถือว่าเราโชคดีจริงๆครับ
Our Villa: Reserve Pool Villa
แอ่น...แอน...แอ๊นนนน และนี่ก็คือวิลล่าของเราครับ เปิดเข้ามาครั้งแรกตกใจกับความมหึมามาก เหมือนกับได้บ้านทั้งหลังเป็นของเราเลย น้องมีขนาด 256 ตร.ม. โรงแรมอนุญาตให้รองรับผู้ใหญ่ได้ 3 คน หรือจะเป็นผู้ใหญ่ 2 + เด็ก 2 ก็ได้เช่นกัน ต่อให้มากกว่านี้ก็ยังเหลือพื้นที่แบบหลวมๆเลยล่ะ
เราไปดูโซนเอ้าท์ดอร์กันก่อนนะครับ เริ่มด้วยสระน้ำเกลือส่วนตัวลุคโมเดิร์นเชียว โซน Patio ขนาดใหญ่ก็มีให้ทั้งโต๊ะ ชุดโซฟานั่งเล่น และ Kitchen Bench พร้อมอ่างล้างมือนั้นก็ใช้เตรียมอาหารว่างง่ายๆที่ไม่ต้อง Cooking ได้เลยครับ ริมสระน้ำมีเก้าอี้อาบแดดเพิ่มให้อีก 2 ตัว และด้านหลังวิลล่ามี Ourdoor Shower สำหรับล้างตัวเมื่อขึ้นจากสระหรือทะเล (Villa ของเราอยู่แทบจะติดกับทะเลเลยครับ) ล้างตัวเสร็จแล้วก็สามารถเดินเข้าห้องน้ำจากด้านหลัง Villa ได้เลย
ส่วนด้านในห้องนั้นเป็น Space ที่เปิดทะลุถึงกันได้หมด ทำให้ดูโล่งต่อเนื่องเป็นหนึ่งเดียว โซนห้องน้ำสามารถเลื่อนประตูมาปิดเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้นะครับ นอกจากพื้นที่จะดูโอ่โถงแล้ว เฟอร์นิเจอร์ก็มีขนาดใหญ่พิเศษเช่นกันทำให้รู้สึกแกรนด์มาก เตียงเป็นขนาด Super King Size ส่วนชุดรับแขกน่าจะนั่งได้ 4-5 คนสบายๆ
ที่โดดเด่นมากๆก็คืออ่างอาบน้ำทรงกลมไซส์เบ้อเริ่มเทิ่มสามารถลงไปนอนแช่พร้อมกัน 2 คนได้เหลือๆ อ่างล้างหน้าแยกเป็น 2 เซ็ตอยู่คนละฝั่งกันไปเลย ที่ผนังฟากหนึ่งเป็น Dressing Area มีพื้นที่ให้วางกระเป๋าและแขวนเสื้อผ้าสัมภาระต่างๆ รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกจากโรงแรมไม่ว่าจะเป็นเสื้อคลุมที่มีทั้งแบบหนาและบาง รองเท้าแตะ กระเป๋า และถุงผ้า ตรงนี้มีม่านที่สามารถรูดมาบังความรกตาได้ ข้างๆกันยังมีตู้เสื้อผ้าแยกต่างหากพร้อมกับ Safety Box ให้อีกด้วย
ห้อง Shower มีทั้งฝักบัวแบบสายและแบบ Rain Shower ที่น้ำไหลซู่ใหญ่ๆลงมาสะใจดีเหลือเกินแถมยังเส้นน้ำก็ละเอียดนุ่มสบายผิวมากๆ เหมือนได้นวดคลายเครียดไปในตัว เราชอบปุ่มคอนโทรลแบบกดปุ๊บน้ำไหลปั๊บไม่ต้องบิดหมุน ง่ายๆก็คือเรามีความสุขกับการอาบน้ำที่นี่มากครับ อาบได้วันละหลายๆรอบเลย
อีกห้องเป็นห้องขับถ่าย มีชักโครกอัตโนมัติพร้อมฝารองนั่งที่อุ่นกำลังดี รีโมทคอนโทรลชักโครกเป็นแบบ Touch Screen ที่สามารถดึงออกมาจากแป้นยึดที่ผนังได้ด้วย
ข้ามมาอีกฟากของห้องก็จะเป็น All Inclusive Minibar ที่ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม และมาเติมให้ทุกวัน ที่เกินคาดก็คือมีเครื่องดื่มแอลกอฮอลทั้ง Vodka, Whisky และ Gin ใส่ขวดแก้วพร้อมอุปกรณ์ชง Cocktail แบบครบมือเตรียมไว้ให้ด้วย ที่นี่ปลอดการใช้พลาสติก 100% ภาชนะทุกอย่างสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ แม้แต่ขวดน้ำแบบ Sparkling ก็เช่นกัน ที่เก๋ก็คือมีสเปรย์ฉีดหน้ากลิ่นส้มออร์แกนิคแบบเดียวกับผ้าเย็นตอนเช็คอินไว้ให้พ่นเพื่อความสดชื่นด้วย ถัดจาก Minibar ก็คือเตียง Day Bed ที่ใหญ่โตประมาณเตียง King Size เห็นจะได้ นอนเล่น-นอนจริงได้หมดเลย
ทั้งหมดนี้ถูกห่อไว้ในการดีไซน์ที่สวยงาม และการจัดวางที่ลงตัว เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นมีรายละเอียดที่น่าสนใจ มีเอกลักษณ์หลายแบบหลากรูปทรงทั้งที่อยู่ในห้อง และที่กระจายอยู่ทั่วโรงแรม แต่ล้วนเล่าเรื่องไปในทางเดียวกันทั้งหมด เราปลื้มงานโคมไฟที่สั่งทำเฉพาะของโรงแรมมากๆครับ นอกจากความสวยงามแล้ว เรื่องประโยชน์ใช้สอยก็ทำได้ดีมากเช่นกัน แม้แต่เรื่องที่เหมือนจะเล็กน้อยอย่างระบบควบคุมแสงไฟและผ้าม่านก็ใช้งานง่ายและทันสมัยมากครับ
Sunday Brunch By The Beach At Salt Society
Salt Society เป็นหนึ่งใน F&B Outlet ที่เป็นที่นิยมที่สุดของโรงแรม ด้วยทำเลติดหาดและบรรยากาศที่เปี่ยมรสนิยม Vibe ของที่นี่คือ Beach Bar ที่ทั้งชิลล์และ Sophisticated ไปพร้อมๆกัน ทุกๆวันอาทิตย์ Salt Society จะยิ่ง Popular และคึกคักมากเป็นพิเศษ เพราะมี Sunday Brunch Buffet ที่จัดเต็มในเรื่องวัตถุดิบพรีเมี่ยมแบบไม่อั้น ตั้งแต่ กุ้งลายเสือที่ตัวใหญ่กว่าฝ่ามือซะอีก เนื้อวากิวย่างหอมไฟความสุกกำลังดี หอยนางรม Fin De Claire No.2 อวบๆ ฟัวกราส์ที่คัดเกรดมาอย่างดี Serrano Ham นำเข้าทั้งขาจากสเปน ไปจนถึงอาหารที่เราคุ้นเคยอื่นๆอย่างพาสต้า เนื้ออบ ชีสนานาชนิด ขนมหวานล้านแปด และเครื่องดื่มทั้งผสมและไม่ผสมแอลกอฮอล เรียกได้ว่าเตรียมท้องไปเท่าไหร่ก็จุความอร่อยไม่หมดแน่นอนครับ
Sunday Brunch ที่นี่มี Package ให้เลือกตามความต้องการของเราถึง 3 แบบมีชื่อเรียกชิคๆว่า Vitamin A, Vitamin B และ Vitamin Sea เริ่มต้นที่ THB 1,890++ ต่อคน ก่อนเริ่มมื้อยังมีการแจก Vitamin C Shot เพิ่มภูมิต้านไวรัสอีกด้วย เค้าคิดมาหมดแล้วจริงๆครับ
นอกจากนี้ยังมีการแจมดนตรีสด (วันที่เราไปเป็น Saxophone สัปดาห์ก่อนหน้าเป็น Violin) กับ Playlist ที่คัดสรรมาโดยดีเจระดับโลกอีกด้วย ห้องอาหารแต่ละห้องของ Centara Reserve Samui จะมี Playlist พิเศษเป็นของตัวเอง แต่สำหรับ Playlist ของ Salt Socirty เราก็สามารถเข้าไปเปิดฟังได้ใน Spotify ด้วยนะครับ เสียงดนตรีทำให้มู้ด Sunday Brunch ยิ่งสนุกคึกครื้นแบบทวีคูณเลย
อาหารทั้งหมดของที่นี่ จะถูกแบ่งเสิร์ฟใน Cube (ห้อง) ทั้ง 4 ดังนี้
Ice Cube เสิร์ฟ Seafood ที่วางบนน้ำแข็ง
Hot Cube เสิร์ฟเนื้อสัตว์ที่อบจากเตา
Chill Cube เป็นโซนที่นั่งสบายๆใกล้กับ BBQ และ Cooking Stations อื่นๆ
Cold Cube เสิร์ฟของหวาน เบเกอรี่ ชีส และผลไม้
อย่าลืมออร์เดอร์ Mr. Smoky ให้มาทำการแสดงชง Sangria แบบควันท่วมที่โต๊ะด้วยนะครับ
มื้อนี้มีคำว่า "คุ้มค่า" เปรี้ยงเข้ามาในหัวของเราดังๆ เพราะเต็มอิ่มทุกประสาทสัมผัส อร่อยลิ้น ละลานตา เสนาะหู เพลินจมูก สบายกาย อิ่มเอมใจ อ่อ..แถมอีกอัน แน่นพุงด้วยครับ ฮ่าๆๆๆ
A Digestive Walk Around The Property
หลังจากมื้อใหญ่เบิ้มขนาดนี้ การเดินย่อยจึงเป็นไฟลท์บังคับไปโดยปริยาย วันนี้อากาศปลอดโปร่งเป็นใจเหลือเกิน ถ่ายมุมไหนก็สวยไปหมด เราขอพาไปทำความรู้จักกับรีสอร์ทในภาพรวมกันก่อนนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะพาไปเจาะลึกแต่ละโซนกันต่อ
หากเรายึดเอา Lobby เป็นจุดศูนย์กลางแล้วหันหน้าไปทางทะเล ทางปีกขวาของโรงแรมนั้นจะเป็นฝั่งที่เน้นกิจกรรม ความสนุก ครื้นเครง เป็นที่ตั้งของ Salt Society, Kids’ Zone สระว่ายน้ำหลัก Pool Bar และอุปกรณ์กิจกรรมทางน้ำที่ทางโรงแรมจัดไว้ให้
ส่วนปีกซ้ายจะเป็นโซนห้องพักที่เน้นความเป็นส่วนตัว เอาไว้พักผ่อนแบบเงียบๆ และจะมีสระว่ายน้ำอีกแห่งที่สงวนเอาไว้ให้กับผู้ใหญ่ที่ต้องการความสงบโดยเฉพาะ
เมื่อสักครู่เราเต็มอิ่มกับปีกแห่งความบันเทิงมาแล้ว ตอนนี้ก็เลยอยากวาร์ปตัวเองสู่ปีกแห่งความไพรเวทกันบ้างครับ
Afternoon Dip At The Adults’ Pool
อีกหนึ่ง Trick ที่ช่วยเร่งการย่อยอาหารของเราก็คือการว่ายน้ำครับ ตอนแรกกะจะกลับไปว่ายน้ำใน Private Pool ที่วิลล่าของเรา แต่พอเดินผ่านสระ Adults’ Pool ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า และเป็น Infinity Pool ที่มีผนังใสสามารถมองเห็นเราตอนดำน้ำได้ด้วย ก็เลยเปลี่ยนใจมาลงสระนี้แทน ทุกสระใน Centara Reserve Samui เป็นสระน้ำเกลือถนอมผิวนะครับ คนที่แพ้คลอรีนสบายใจได้เลย ระหว่างที่อยู่สระผู้ใหญ่นี้เราก็สามารถสั่งเครื่องดื่มกับพนักงานมาดับกระหายได้เหมือนที่สระหลักเลย สะดวกกายสบายใจดีจังครับ
The Gin Run
เมื่อท้องฟ้าเริ่มถูกฉาบด้วยแสงสีทองของตะวันใกล้ตกดิน ก็จวนเวลามื้อค่ำ(อีก)แล้ว ฮ่าๆ แต่เรามีแพลนไปดื่ม Pre-Dinner Cocktail ที่บาร์ The Gin Run กันก่อน จากชื่อแล้วแน่นอนว่าพระเอกของบาร์แห่งนี้ก็คือ Gin เจ้าสปิริต (สุราที่ได้จากการกลั่น) สีใสหอมฟุ้งด้วยกลิ่น Juniper Berry นั่นเอง
นอกจากที่นี่จะมี Gin ยี่ห้อ Niche ต่างๆจากทั่วโลก รวมถึง Small Batch Gin เกรดพรีเมี่ยมของไทยด้วยแล้ว ทางบาร์ยังทำการ Infuse กลิ่น Botanicals อื่นๆขึ้นเองเพื่อครีเอทเป็น Gin กลิ่นใหม่ๆไว้ให้ลูกค้าลิ้มลองกว่า 35 กลิ่น โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักๆก็คือกลิ่นโทน Fruity & Floral กับกลิ่นโทน Herb & Spice เราชอบกลิ่น Rose และ Little Basil (ใบแมงลัก) เป็นพิเศษ แต่ก็ยังมีอีกหลายกลิ่นที่น่าสนใจมากๆ เช่น ทับทิม บีทรูท ไธม์ ผักชี กรีนโอลีฟ วาซาบิ ฯลฯ ถ้าชิมครบเราคงเมาจนต้อง Skip ดินเนอร์ไปเลย
นอกจาก Gin แล้ว บาร์แห่งนี้ก็ยังมีเมนูเครื่องดื่มอื่นๆทั้งแบบที่มีและไม่มีแอลกอฮอลซึ่งทางทีมตั้งใจคัดสรรและรังสรรค์มาอย่างดีเพื่อให้ทุกคนได้ Enjoy กันด้วย แต่สิ่งที่ทำให้ประสบการณ์ Pre-Dinner Cocktail ของเราน่าจดจำกลับอยู่ที่ตัวบาร์เทนเดอร์ครับ เราสัมผัสถึง Passion และความ Cultured ใน Gin ของ คุณเคน บาร์เทนเดอร์คนเก่งของเราได้อย่างชัดเจน หลังจากชงเครื่องดื่มหอมอร่อยให้เราดื่มแล้ว คุณเคนก็ยังเล่าประวัติศาสตร์และอธิบายเกร็ดเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับ Gin ที่เราไม่เคยรู้มาก่อนเลยให้เราฟังอีกด้วย แม้ Gin จะไม่ได้เป็นวัฒนธรรมท้องถิ่น แต่ความรู้ลึกของคุณเคน ก็ทำให้เรารู้สึกว่ากำลังได้สัมผัสประสบการณ์ Reserve Culture และ Reserve Touch ไปพร้อมๆกัน